organization cover

Carenation

Community Development
+ 1
กรุงเทพมหานคร, Thailand
+2
+1
Link copied to clipboard.
0followers
กิจกรรมเพื่อสังคม โดยคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดในการช่วยพัฒนาสังคมภายในคอนเซ็ปต์ "สังคมแห่งการให้ เพื่อช่วยให้สังคมดีขึ้นอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม"
SDG Goals
10Reduced Inequality
11Sustainable Cities and Communities
12Responsible Consumption and Production
16Peace and Justice Strong Institution
Donation to organization is used for general expenses and not used for specific campaigns
0THB Raised
0supporters
Tax-deductible Not available
Our Story

Carenation เริ่มจากแนวคิดที่อยากให้พวงหรีดมีหน้าที่มากกว่าการให้กำลังใจกับครอบครัวที่สูญเสีย เราไม่อยากให้ประโยชน์หยุดอยู่แค่การร่วมแสดงความเสียใจที่วัด แต่อยากให้พวงหรีดนั้นส่งต่อความสุขให้คนอื่นได้อีกมากมาย และเป็นสะพานบุญที่ผู้ส่งจะได้ทำให้กับผู้วายชนม์



ชื่อพวงหรีดสานบุญ by Carenation เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการส่งต่อเป็นสะพานบุญผ่านผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มจากสิ่งแวดล้อม เพราะเรามองเห็นข้อเท็จจริงที่ว่า ใน 1 ปีประเทศไทยใช้พวงหรีดหลายล้านพวง คิดเป็นเงินหลักหลายพันล้านบาท และดอกไม้ส่วนใหญ่นั้นต้องนำเข้าจากประเทศจีน หรือมาเลเซียเป็นหลักเพราะประเทศไทยไม่ได้ปลูกเอง สร้าง carbon footprint มหาศาล นอกจากนั้นพวงหรีดส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังมีส่วนประกอบของโฟมซึ่งเป็นมลพิษกับสิ่งแวดล้อม จึงเกิดเป็นไอเดียที่อยากจัดทำพวงหรีดที่ทำจากกระดาษรีไซเคิลและป่าปลูกเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม



โดยเรายังเล็งเห็นว่ามีคนมากมายที่ไร้งาน และไม่มีทั้งความสามารถและโอกาสที่จะมีรายได้เพิ่มเติม ดังนั้นเราจึงออกแบบธุรกิจที่ทำให้พวงหรีดทุกพวกเกิดกาจการจ้างงานคนในชุมชน ทำให้คนในชุมชนมีงานมีรายได้ และที่สำคัญ Carenation ยังจับมือเป็นพันธมิตรกับองค์กรการกุศล โรงพยาบาล และมูลนิธิต่าง ๆ โดยเราให้ลูกค้าเลือกได้เองว่าจะบริจาคให้องค์กรไหน เพราะเราเห็นว่ายังมีองค์กรดี ๆ อีกมากมายที่มีเงินไม่เพียงพอในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งที่กิจกรรมนั้น ๆ เป็นสิ่งที่ดี และเป็นสิ่งที่สังคมต้องการเป็นอย่างมาก หรือในบางครั้งการบริจาคเงินก็เป็นเพียงแค่การทำตามกระแสนิยม ซึ่งเมื่อกระแสเหล่านั้นหมดลง เงินสนับสนุนที่ไหลเข้าองค์กรก็หยุดตามไปด้วย ทำให้การดำเนินงานต่าง ๆ ต้องหยุดชะงักลง หรือถูกยกเลิกไปเสียอย่างนั้น



Carenation จึงต้องการเป็นส่วนหนึงที่ช่วยสนับสนุนงบส่วนนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่อิงกับกระแสนิยม โดยทุกการดำเนินงานของเรานั้นยังทำอย่างโปร่งใส และทุกการสั่งซื้อจะมีใบเสร็จการบริจาคส่งมอบให้ลูกค้าทุกครั้ง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเงินของท่านได้ถึงมือของผู้รับที่ท่านต้องการจริง ๆ



Social Impact

เชิงสิ่งแวดล้อม *

Carenation ต้องการดำเนินธุรกิจแบบ Zero Waste อย่างแท้จริง เพื่อไม่ให้มีส่วนหลงเหลือไปทำลายธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมได้ กิจการพวงหรีดเพื่อสังคม จึงเป็นอีกทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โดยสถิติการตายของคนไทยอยู่ที่เฉลี่ยวันละกว่า 1,000 คน

และในพิธีศพ มีสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือพวงหรีดดอกไม้

ซึ่งถ้าในประเทศไทยมีงานศพประมาณวันละ 500 งาน แล้วแต่ละงานใช้พวงหรีดดอกไม้สดอย่างต่ำ 10 พวง ดังนั้น 1 วัน จะเท่ากับใช้พวงหรีดไปถึง 5,000 พวง และ 1 เดือน จะใช้พวงหรีดถึง 45,000 พวง

พอครึ่งปีผ่านไป ก็จะหมดพวงหรีดไปแล้วกว่า 270,000 พวง

และเมื่อ 1 ปีผ่านไป พวงหรีดที่เหลือจากการใช้งานก็จะกลายเป็นขยะ ที่เพิ่มปริมาณขึ้นไปเป็น 540,000 พวง

การใช้ดอกไม้สด ถึงแม้จะย่อยสลายได้ง่ายอยู่แล้ว แต่ในบรรดาของประกอบพวงหรีดอื่น ๆ ที่ใช้ยึดดอกไม้สดอย่างเข็มหมุด โฟมกระดาษ และเชือกฟาง ก็คงไม่ต้องบอกว่า มันกลายเป็นขยะจำนวนมากขนาดไหน

Carenation จึงใช้คอนเซ็ปต์พวงหรีดกระดาษมาทดแทนปัญหาขยะจากดอกไม้สด เนื่องจากพวงหรีดเป็นสิ่งที่ใช้ไม่กี่วันแล้วทิ้งไป ทำให้เสียดายทรัพยากรธรรมชาติที่ต้องสูญเสีย โดยที่พวงหรีดกระดาษของเรายังไม่มีซากของสิ่งเหลือใช้ใด ๆ จากการประกอบพวงหรีดทั้งสิ้น

เชิงชุมชนหรือสังคม *

Carenation เห็นว่าปัญหาการว่างงานในชุมชนเป็นปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข เราจึงต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาโดยการสร้างงานให้กับชุมชน และแรงงานที่ขาดทักษะ

การออกแบบพวงหรีดของเราจึงเอาโจทย์นี้เป็นตัวตั้ง โดยพวงหรีดทุกพวงถูกออกแบบให้แยกชิ้นส่วนเป็นชิ้น แล้วมาประกอบได้ทีหลัง แทนที่จะออกแบบให้ประกอบเสร็จจากเครื่องจักรในโรงงานทั้งพวง ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ต้นทุนเราสูงขึ้นมาก แต่การแยกชิ้นนี้กลับทำให้เราสามารถมอบงานให้ชุมชนได้ โดยเราออกแบบให้พวงหรีดนั้นประกอบง่าย คนไม่มีทักษะ เด็ก หรือคนชราก็ประกอบได้ จึงเป็นรายได้เสริมสำหรับคนที่ต้องการมีอาชีพ และมีรายได้เพิ่มเติมไปจุนเจือครอบครัว

มีทีมงานคนหนึ่ง ชื่อ พี่น้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในคนจากชุมชนที่เราภูมิใจจะยกมาเป็นตัวอย่าง เพราะพี่น้อยเป็นแม่ค้าขายหมูปิ้งข้างถนน ที่เคยทำงานมีเงินเก็บ แต่สามปีที่แล้วก็มาพบว่าลูกคนเล็กเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว จากรายได้เดิมที่คิดว่าพอเพียง แต่กลับต้องนำมาจ่ายค่ารักษาลูกหมด ซึ่งพี่น้อยเป็นคนขยัน โดยตื่นตั้งแต่ตีสามทุกวันเพื่อมาเตรียมของขาย แต่ว่าต่อให้พี่น้อยจะขยันมากกว่าเดิมแค่ไหน คนซื้อหมูปิ้งก็มีจำนวนเท่าเดิม คนเดินถนนก็มีจำนวนเท่าเดิม และที่สำคัญคือหลังเที่ยงก็จะไม่มีใครเดินซื้อแล้ว ดังนั้นการที่พี่น้อยจะหารายได้ให้มากขึ้นเพื่อมารักษาลูกจึงเป็นเรื่องยากมาก แต่พอมาเริ่มทำพวงหรีด ซึ่งพี่น้อยมาทำหลังจากที่ขายของข้างถนนเสร็จ พี่น้อยก็มีรายได้เสริม สามารถส่งไปรักษาลูก และจุนเจือครอบครัวได้ เรื่องราวแบบนี้จึงเป็นสิ่งที่พวกเราภูมิใจ และอยากสร้างเรื่องราวแบบนี้ให้เกิดมากขึ้นในสังคมไทย





Updates
There are currently no updates