โรงพยาบาลสงฆ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1941 เป็นสถาบันสุขภาพสงฆ์แห่งชาติ โดย จอมพล ป. พิบูลสงครามให้บริการตรวจวินิจฉัย บำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อพัฒนาวิชาการแพทย์ด้านโรคทั่วไปและจักษุวิทยาแก่พระภิกษุ-สามเณร ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์และวิจัยทางการแพทย์ ด้านโรคทั่วไป และจักษุวิทยาแก่พระภิกษุ-สามเณร และดำเนินการเกี่ยวกับการให้การศึกษาและฝึกอบรมแก่แพทย์ และแพทย์ประจำบ้าน เพื่อให้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขาที่รับผิดชอบ ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการแพทย์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข

นายแพทย์อภิชัย สิรกุลจิรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ โดยวัตถุประสงค์ของการตั้งโรงพยาบาลสงฆ์ คือ

1. เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่เหมาะสมในการที่พระภิกษุ-สามเณรจะต้องได้รับการรักษาพยาบาลร่วมกับฆราวาส
2. เพื่อช่วยเหลือพระภิกษุ-สามเณรอาพาธให้ได้มีโอกาสปฏิบัติตามวินัยบรมพุทธานุญาต
3. สนองพุทธพจน์ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า “โย ภิขเวมํ อุปฏฐ เหยย โสคิลานํ อุปฏ.ฐเหยย” ซึ่งแปลว่า "ผู้ใดปรารถนาอุปัฏฐากเราตถาคตผู้นั้นพึงอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด"



Priest Hospital was established in 1941 as a national health institution for monks, under the initiative of Field Marshal P. Pibulsongkram. It offers services for diagnosis, treatment, and rehabilitation, aiming to advance medical and ophthalmology knowledge among monks and novices. It engages in education, research, analysis, and medical research for general diseases and ophthalmology for monks and novices. It also involves providing education and training for doctors and residents to specialize in their respective fields, as well as transferring medical technology to medical personnel and public health.

Dr. Aphichai Sirikunlajira, the director of Priest Hospital, states that the purpose of establishing the Priest Hospital is:

1. To avoid the inappropriate situation where monks and novices have to receive medical treatment alongside laypeople.
2. To assist ailing monks and novices in getting the opportunity to follow the monastic discipline.
3. To fulfill Buddha's saying "Yo bhikkhave imam upatthaye attano sokilam upatthayeyya", which means "Whoever wishes to attend upon me, he should attend upon a sick monk."

• ศึกษา วิจัย พัฒนา ถ่ายทอดผลงานทางวิชาการ องค์ความรู้ และนวัตกรรมทางการแพทย์ด้านการดูแลสุขภาพสงฆ์
• จัดบริการทางการแพทย์ระดับตติยภูมิหรือสูงกว่า แก่พระสงฆ์จากทั่วประเทศ
• พัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ ภายใต้หลักพระธรรมวินัย
• พัฒนาโรงพยาบาลและสิ่งแวดล้อมให้เป็นต้นแบบของการดูแลพระสงฆ์อาพาธภายใต้หลักพระธรรมวินัย



• Study, research, develop, and disseminate academic works, knowledge, and medical innovations in the care of monks' health.
• Provide medical services at the tertiary level or higher to monks from all over the country.
• Develop medical personnel in the health care of monks under the principles of the monastic discipline.
• Develop the hospital and its environment to be a model for caring for ailing monks under the principles of the monastic discipline.