ประเทศไทยสูญเสียนิสิตนักศึกษาหลายร้อยคนในทุกทุกปี คนหนุ่มสาวทำร้ายตัวเอง หรือทอดทิ้งความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่ชีวิตยังเดินมาไม่ถึงครึ่งทาง ทั้งที่พวกเขายังมีอายุขัยอีกหลายสิบปี มีเวลาให้ได้เติบโต เรียนรู้ และมีส่วนในการช่วยเหลือประเทศอีกมาก จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าพวกเขาจะตัดสินใจทำร้ายตัวเองด้วยอารมณ์ชั่ววูบ จนเกิดเป็นรอยแผลในใจหรือถึงขั้นสูญเสียชีวิต เพียงเพราะพวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ ทั้งที่ถ้าพวกเขาได้รับกำลังใจหรือคำแนะนำ ก็อาจช่วยสะกิดให้พวกเขาลุกขึ้นยืนได้ใหม่ โดยไม่มีใครต้องเจ็บปวดหรือสูญเสีย
ช่องทางบริการให้คำปรึกษาสุขภาพจิตในสังคมยังมีไม่เพียงพอที่จะให้บริการอย่างทั่วถึง โครงการกำแพงพักใจ (Wall of Sharing) จึงเข้ามาช่วย เพิ่มช่องทางให้นักศึกษามีทางเลือกในการพูดคุย ปรึกษาปัญหาความเครียด ปัญหาสุขภาพจิตกับบุคลาการที่มีความเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา โดยใช้วิธีให้คำปรึกษาผ่านวีดีโอคอลที่เป็นมาตรฐานและยอมรับว่ามีประสิทธิภาพตามหลักสากล
ooca มีพันธกิจในการช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต โดยให้บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตออนไลน์ มาตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2017 จนถึงวันนี้ ที่เรามีความพร้อมจะเริ่มทำโครงการเพื่อสังคม
ผู้ก่อตั้ง ooca เป็นคนหนึ่งที่เคยเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงบริการให้คำปรึกษาเมื่ออยู่ในภาวะซึมเศร้า จึงคิดอยากสร้างแพลตฟอร์มที่ทำให้การให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่สะดวกยิ่งขึ้น ปราศจากการตีตรา เข้าถึงง่าย มีอิสระมากขึ้นในการเลือกเวลาที่สะดวกรับคำปรึกษา จะได้ไม่ต้องลางานหรือลาเรียน
ปัจจุบันโครงการกำแพงพักใจได้ดำเนินการมา 3 ปี และได้มีผลกระทบต่อเยาวชนในสังคมไทยมากมาย
1. มีนิสิต นักศึกษาจากกว่า 10 มหาวิทยาลัยได้ลงทะเบียนกับ Wall of Sharing ในระบบ
2. สร้างแกนนำเยาวชนด้านสุขภาพจิตกว่า 30 คนจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
3. ตลอดจนขยายผลในการจัดกิจกรรมเพื่อให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพจิตและการดูแลจิตใจที่ถูกต้องมากกว่า 100 คนในปีที่ผ่านมา