Project แมวหางกิ้นส์

ความเป็นมา ห้องสมุดแมวหางกิ้นส์ ตั้งขึ้นหลังจากที่เราย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้สามปี(ประมาณ ปี 2559)เรามาพร้อมกับหนังสือหนึ่งคันรถและแมวอีกเจ็ดตัวกับความฝันจะมีพื้นที่ทำงานที่รัก

พร้อมกับเป็นที่อยู่ ที่เรียนรู้และพัฒนาตัวเองไปพร้อมกันงานที่รัก ผมจำได้วันแรกๆ ที่ขนข้าวของมาถึง มีเด็กหญิงสองคนมาส่องว่าใครหนอย้ายเข้ามาใหม่จนได้ทักทายพูดคุยและคุ้นเคยกัน เด็กหญิงสองคนแวะเวียนมาบ่อยพร้อมกับชวนเพื่อนชวนน้องๆมาด้วย เราสองคน(ผมกับอร) ต้อนรับพวกเขาด้วยชวนทำนั่นทำนี่ เล่มเกมบ้าง วาดรูปบ้าง อ่านหนังสือบ้าง จนกลายเป็นว่าถ้าวันหยุดพวกเด็กๆ จะต้องมาหาเราที่บ้าน

เราทำงานกับเด็กๆ ด้วยทักษะกระบวนกรและวิชาความรู้ ด้านศิลปะ ภาษา และอื่นๆ จากประสบการณ์ที่สะสมมา แบบไม่มีชื่อเรียกว่ากลุ่มหรือองค์กรอะไร จนวันหนึ่ง..

ที่มาของ แมวหางกิ้นส์

เราได้พูดคุยกับคุณบิ๊ก เจ้าของ เดอะ กู๊ส เฮาท์ อุบล เขาเล่าให้ฟังถึงที่มาของค่าเฟ่และโฮเทลให้เราฟังว่ามันมาจากห่านสองตัวที่บ้านเกิด

“การที่เราตั้งชื่อกลุ่มหรือองค์กรของเราจากสิ่งที่เรารู้สึกผูกพันด้วยมันจะทำให้เรามีความรู้สึกเป็นเจ้าของมันจริงๆ...”

ผมจำรายละเอียดการคุยกันได้ไม่หมด แต่ได้ไอเดียว่า เราต้องชื่อที่เกี่ยวกับแมว เรามีแมวหางกุดสั้น (กิ้น-ภาษาอีสาน)อยู่ 7 ตัว และเราก็รักมันมาก ชื่อ แมวหางกิ้นส์ ดีมั๊ย? (เติมเสียง s เข้าไปให้ดูโมเดิร์น เป็นรูปพหูพจน์ของแมวหลายตัว )

กลุ่มแมวหางกิ้นส์ แมวหางกิ้นส์สตูดิโอ แมวหางกิ้นส์เลิร์นนิ่งสเปซ ห้องสมุดแมวหางกิ้นส์หรือ อะไรก็แล้วแต่ ....ที่เป็นแมวหางกิ้นส์

“ชื่อดี” พี่จืด (เข็มทอง โมราษฎร์)เคยช่วยคอนเฟิร์มชื่อนี้

เล่าลัดตัดเรื่องที่มาถึงตอนนี้ ห้องสมุดแมวหางกิ้นส์เกิดเป็นรูปเป็นร่างแยกออกจากที่อยู่อาศัย เป็นห้องกว้าง 6x7 เมตร มีหนังสือดีๆ โดยเฉพาะหนังสือเด็กและวรรณกรรมเยาวชนกับความตั้งใจที่จะมีหลักสูตรพัฒนาทักษะ การเรียนรู้ สำหรับเด็กแบบจริงจังขึ้น ผมอาจจะต้องลดการรับงานรับจ้างข้างนอกลง เพื่อให้เวลากับงานของห้องสมุด และต้องอยู่กับงานที่รักให้ได้แบบไม่เดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจครอบครัว

เอาจริงๆ ก็ยังคิดไม่ตกเรื่องว่างานห้องสมุดจะทำให้เกิดวิถีแบบนั้นได้อย่างไร แต่ 7-10 เดือน ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราสามารถสร้างพื้นที่เล็กๆที่ชื่อห้องสมุดแมวหางกิ้นส์ได้ด้วยความช่วยเหลือของหลายๆคน ทำให้มีกำลังใจที่จะทำต่อ....



แผนระดมทุน : เราคิดเรื่องระดมทุนอยู่สี่แบบ (เบื้องต้น)

แบบแรก คือ ขายหนังสือเหมือนเดิม หลายท่านอาจจะมีคำถามว่า หนังสือมาจากไหน?

หนังสือมาจากเครือข่ายที่ทำงานด้านหนังสือบริจาค เช่น โครงการอ่านสร้างชาติ มูลนิธิกระจกเงาและจากพี่ๆ เพื่อนๆ ที่ยินดีส่งหนังสือหรือสิ่งของที่สามารถนำมาระดมทุนได้แบบตลาดแบ่งปัน

แบบที่สอง เป็นการรับออกแบบและจัดกิจกรรมเรียนรู้งานเด็กเยาวชนในพื้นที่และใกล้เคียง เช่น อบรมพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ด้วยเครื่องมือต่างๆ ค่ายศิลปะ ค่ายสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

แบบที่สาม ผลงานของเด็กๆ ที่เกิดขึ้นในการทำกิจกรรมอาจจะกลายเป็นสินค้า เพื่อขายเป็นทุนให้เด็กและกลุ่มได้อีกด้วย

แบบที่สี่ รับทุนสนับสนุนจากแหล่งทุน ด้วยการเขียน project (โครงการ) ที่เกี่ยวของกับงานที่เราทำอยู่ ผมคิดว่า ถ้าบริหารจัดการดีๆ แนวทางหรือกระบวนการแบบนี้ น่าจะดำเนินไปได้ ค่อยปรับเปลี่ยนเอาตามโอกาสและสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

แผนงานในระยะอันใกล้

1. project Maew Mapping(แผนที่แมว) : เป็นกระบวนการเรียนรู้ชุมชนและชวนเด็กๆ ทำข้อมูลชุมชนแบบง่ายๆ สนุกๆ เหมือนขบวนการนักสืบตามหาแมว แต่ก็เก็บข้อมูลและทำแผนที่อย่างอื่นด้วย เช่น แผนที่เด็กในหมู่บ้าน แผนที่ผู้สูงอายุ แผนที่ศักยภาพต่างๆ เป็นต้น

2. project หางกิ้นส์วรรณกรรม : เป็นกระบวนการเรียนรู้เรื่อง การเขียน การอ่าน การคิด การสื่อสาร ผ่านหนังสือและศิลปะ และเครื่องอื่นๆ

3. project สุขสองวัย : เป็นงานต่อเนื่องที่ครูอร กับเด็กๆ ชวนกันทำเรื่องการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ในชุมชนผ่านกิจกรรมต่างๆ